Edge Computing ระบบประมวลผลข้อมูลในสมาร์ทซิตี้ -

คือ แนวคิดในการประมวลผลข้อมูลที่ “ปลายทาง” ใกล้แหล่งกำเหนิดข้อมูล เช่น อุปกรณ์ IoT หรือเซ็นเซอร์ภาคสนาม แทนที่จะส่งข้อมูลทั้งหมดไปประมวลผลที่ศูนย์กลาง (Cloud) โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการลดความหน่วง (Latency) เพิ่มความเร็วในการตอบสนอง และลดภาระของโครงข่ายสื่อสาร

บทบาทสำคัญของ Edge Computing ใน Smart City

1.การตอบสนองทันเวลา (Low Latency Response)

ข้อมูลจากระบบจราจร กล้องวงจรปิด หรือเซ็นเซอร์สิ่งแวดล้อม ถูกวิเคราะห์ทันทีที่จุดกำเนิด ทำให้สามารถดำเนินการเชิงรุกหรือแจ้งเตือนเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที เช่น การควบคุมสัญญาณไฟจราจรหรือการแจ้งเตือนภัยพิบัติ

2.ลดภาระการส่งข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง (Cloud)

ในเมืองที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อจำนวนมาก Edge Computing ช่วยกรองและประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น ลดปริมาณข้อมูลที่ต้องส่งไปยัง Cloud ซึ่งช่วยประหยัดแบรนด์วิธและลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย

3.เสริมความมั่นคงและความต่อเนื่องของบริการ

Edge Computing สามารถทำงานได้แม้ในกรณีที่การเชื่อมต่อเครือข่ายล้มเหลว ทำให้บริการสาธารณะยังสามารถดำเนินการได้อย่างไม่สะดุด

4.ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล

การประมวลผลใกล้แหล่งกำเนิดข้อมูลช่วยลดความเสี่ยงจากการส่งข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลส่วนบุคคลผ่านเครือข่ายภายนอก ลดโอกาสการรั่วไหลหรือการโจมตีจากภายนอก

Edge Computing เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะให้มีความรวดเร็ว ยืดหยุ่นปลอดภัย และรองรับการเติบโตของข้อมูลในระดับมหภาคได้อย่างยั่งยืน